Believe In Better Food 4 เมนูที่ขาดมะขามเปียกไม่ได้ ตัวชูโรงให้รสชาติอาหารโดดเด่นขึ้น

4 เมนูที่ขาดมะขามเปียกไม่ได้ ตัวชูโรงให้รสชาติอาหารโดดเด่นขึ้น

4 เมนูที่ขาดมะขามเปียกไม่ได้ ตัวชูโรงให้รสชาติอาหารโดดเด่นขึ้น post thumbnail image

มะขามเปียกเป็นวัตถุดิบที่ถูกนำมาใช้กับอาหารหลากหลายประเภท ทั้งอาหารจานหลัก เมนูของว่าง และเครื่องดื่ม มีจุดเด่นที่รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม สามารถช่วยเสริมความอร่อยลงตัวให้กับอาหารได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทำเป็นซอสหรือเติมลงไปแทนเครื่องปรุง ก็ทำให้รสชาติอาหารโดดเด่นมากขึ้น วันนี้เราจึงขอแนะนำ 4 เมนูอาหารที่มีมะขามเปียกเป็นส่วนผสม จะทำทานเองที่บ้านก็อร่อย หรือจะทำขายในร้านอาหารก็ขายดี

4 เมนูอร่อย รสชาติโดดเด่นแบบขาดมะขามเปียกไม่ได้

Crispy Prawn in Tamarind Glaze (กุ้งทอดซอสมะขาม)

1. กุ้งทอดราดซอสมะขาม

กุ้งทอดราดซอสมะขามเป็นเมนูที่ทำง่าย ความกรอบของกุ้งทอดเข้ากันได้ดีกับซอสมะขามรสชาติเปรี้ยวหวาน ไม่มีรสเผ็ดจึงทานได้ทุกเพศทุกวัย เป็นเมนูที่เหมาะกับทุกโอกาสทุกเทศกาล

วัตถุดิบและส่วนผสม : กุ้งขาวตัวใหญ่, กระเทียม, หอมแดง, พริกแห้ง, ผักชี, น้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา, น้ำมะขามเปียก และน้ำเปล่า
วิธีทำ
1. เริ่มทำซอสโดยใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขาม และน้ำเปล่าลงไปในกระทะตั้งไฟอ่อน ค่อย ๆ เคี่ยวจนซอสงวดลงเป็นลักษณะข้นเหนียว แล้วพักไว้
2. เจียวกระเทียมและหอมแดงที่ซอยแล้วจนเหลืองได้ที่ และนำมาพัก
3. นำกุ้งขาวมาผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก เมนูนี้จะนิยมเหลือหัวกุ้งไว้เพื่อให้น่าทาน จากนั้นให้ล้างทำความสะอาดกุ้ง แล้วจึงนำมาคลุกด้วยแป้งทอดกรอบบาง ๆ และนำไปลงทอดในน้ำมันจนสุก
4. ทอดพริกแห้งจนกรอบ
5. เรียงกุ้งทอดใส่จานให้สวยงาม ราดซอสมะขามเปียกที่เตรียมไว้ลงไปบนกุ้งทอด โรยหน้าด้วยกระเทียม หอมแดง และพริกทอด เป็นอันเสร็จ

2. ก๋วยเตี๋ยวผัดซอสมะขาม

เมนูทานง่าย เหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารประเภทเส้น ซึ่งมีส่วนผสมสำคัญคือน้ำมะขาม ที่เมื่อนำไปผัดกับเส้นก๋วยเตี๋ยว อย่างเส้นเล็ก เส้นใหญ่ หรือเส้นหมี่ รสชาติที่ไปเคลือบเส้นนั้นจะเข้ากันมาก ทำให้ได้เมนูแปลกใหม่อีกหนึ่งเมนูที่ไม่เลี่ยน แตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวแห้ง หรือผัดซีอิ๊วอย่างชัดเจน
วัตถุดิบและส่วนผสม : เส้นก๋วยเตี๋ยวตามชอบ, เนื้อหมูสามชั้น, ถั่วงอก, หอมแดงซอย, ไชโป้วหวาน, น้ำมะขามเปียก, น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา
วิธีทำ
1. เริ่มจากเตรียมเนื้อหมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำลงไปผัดในน้ำมันพร้อมกับหอมแดงซอยให้พอสุก
2. ใส่น้ำมะขามเปียกและน้ำเปล่าตามลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา ผัดจนเนื้อหมูสุกดี ชิมรสให้ได้ตามต้องการ
3. ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงไปพร้อมกับไชโป้วหวาน ผัดต่อจนเส้นเริ่มนิ่ม
4. ใส่ถั่วงอกลงไปผัดจนสุก
5. จัดเสิร์ฟใส่จาน และสามารถปรุงรสเพิ่มด้วยเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวตามชอบ

3. ต้มยำไก่น้ำมะขามเปียก

เมนูต้มยำก็เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก อย่างเช่นต้มยำไก่ ซึ่งเป็นเมนูที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ยิ่งเพิ่มความเปรี้ยวเข้าไปด้วยมะขามเปียกก็ยิ่งอร่อยลงตัวมากกว่าเดิม
วัตถุดิบและส่วนผสม : เนื้อไก่, มะเขือเทศ, ข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด, หอมแดง, พริก, ต้นหอมผักชีซอย, น้ำมะขามเปียก, น้ำตาลทราย, น้ำปลา, พริกป่น และเกลือ
วิธีทำ
1. ตั้งน้ำจนเดือดแล้วใส่เครื่องต้มยำลงไป ทั้งข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และมะเขือเทศ
2. รอจนน้ำเดือดอีกครั้งจึงใส่เนื้อไก่ลงไป ขั้นตอนนี้ห้ามคนเพื่อลดกลิ่นคาว ปล่อยให้เนื้อไก่เริ่มสุกเป็นสีขาว
3. ต้มต่อประมาณ 20 นาที หมั่นตักฟองออกเรื่อย ๆ
4. เมื่อเนื้อไก่สุกดีแล้ว ใส่พริกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา พริกป่น เกลือ น้ำมะขาม และต้นหอมผักชีซอย

4. น้ำพริกมะขามเปียกหมูสับ

น้ำพริกเป็นเมนูยอดนิยมสำหรับคนไทย เพราะสามารถรับประทานร่วมกับเมนูอื่น ๆ ได้อย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ น้ำพริกมะขามเปียกหมูสับ โดยจะแตกต่างกับการใช้มะขามอ่อน และมีจุดเด่นที่รสชาติเปรี้ยวหวาน ความเผ็ดสามารถปรุงได้ตามชอบ เด็ก ๆ ก็สามารถทานได้ จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยม
วัตถุดิบและส่วนผสม : เนื้อหมูสับ, กระเทียม, หัวหอม, พริกแห้ง, มะขามเปียก, กะปิ, เกลือ, น้ำตาลทราย และน้ำมันพืช
วิธีทำ
1. นำมะขามเปียกมาแช่น้ำทิ้งไว้ให้นิ่ม แนะนำว่าให้เลือกซื้อแบบไร้เมล็ดเพื่อความสะดวกในการแกะใช้
2.คั่วพริกแห้งจนกรอบ ควรใช้ไฟอ่อน และระวังไม่ให้ไหม้ พักให้เย็นลงแล้วนำมาตำให้ละเอียด
3.นำกระเทียมและหัวหอมที่ปอกเปลือกแล้วมาคั่วด้วยไฟอ่อนให้พอเหลืองและส่งกลิ่นหอม จากนั้นนำมาตำรวมกับพริกแห้งและกะปิจนเข้ากัน
4.ตั้งน้ำมันให้ร้อนด้วยไฟอ่อน นำเนื้อหมูสับลงไปผัดกับส่วนผสมที่ตำไว้ให้เข้ากัน
5.ใส่เนื้อมะขามที่เอาก้าน เปลือก และเมล็ดออกแล้วลงไปทั้งเนื้อและน้ำ ปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือ โดยให้มีรสเปรี้ยวหวานเป็นหลัก
6. ผัดต่ออีกเล็กน้อยจนน้ำพริกเริ่มแห้งตามต้องการ ก็พร้อมเสิร์ฟ

เมนูอาหารที่มีมะขามเปียกเป็นส่วนผสมนั้นยังมีอีกหลายเมนูด้วยกัน ซึ่งจะโดดเด่นที่รสชาติเปรี้ยวหวาน อร่อยลงตัวเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย และยังเป็นวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ หาได้ทั่วไปตามท้องตลาด มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีวิตามินซีสูง และมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ เหมาะที่จะนำมาทำเป็นอาหารรับประทานเป็นประจำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

ตรวจโควิดก่อนเข้างาน

ตรวจโควิดก่อนเข้างาน ควรตรวจเมื่อไหร่ตรวจโควิดก่อนเข้างาน ควรตรวจเมื่อไหร่

การตรวจโควิด ควรเป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดที่ดำเนินอย่างเป็นระบบ และดำเนินให้ทั่วถึงบุคลากรทุก ๆ คนที่ทำงานอยู่ในบริษัทหรือในองค์กรแห่งใดแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะได้สร้างความสบายใจ และทำให้เกิดการดำเนินงานอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น หรือในกรณีที่ตรวจพบหาเชื้อจากพนักงานคนใดคนหนึ่ง จะได้รีบแก้ไขสั่งกักกันตัว หรือส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด การตรวจโควิดก่อนเข้างาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญเช่นเดียวกัน แต่คำถามคือควรตรวจเมื่อไหร่ ตรวจในช่วงไหนบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการตรวจถี่มากจนเกินไป เพราะทุก ๆ ครั้งที่ทำการตรวจ ก็อาจจะต้องเสียเวลาในการทำงาน หรือเสียค่าตรวจจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนในการตรวจด้วย    ตรวจโควิดก่อนเข้างาน ควรตรวจช่วงไหนบ้าง  โดยมีผู้ที่ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก ไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการน้อย จนกระทั่งเจ้าตัวไม่คิดว่าตนเองได้รับเชื้อเข้าไปแล้วดังนั้นจึงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในสถานที่ทำงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ค่อนข้างจะแออัด ดังนั้นสิ่งสำคัญคือจะต้องเร่งตรวจหาเชื้อตั้งแต่ยังไม่มีออกอาการเพื่อลดความเสี่ยงให้เร็วที่สุด โดยหลักเกณฑ์ที่คุณควรวางระบบในการตรวจหาเชื้อกับพนักงานทุกคนมีดังนี้…  ตรวจโควิดก่อนเข้างานในทุก ๆ วันจันทร์ ซึ่งเท่ากับว่าใน 1 สัปดาห์จะมีการตรวจหาเชื้อโควิด 1 ครั้ง นั่นก็คือวันจันทร์ ซึ่งเป็นช่วงเปิดสัปดาห์ หรือถ้าพบว่าเป็นการตรวจถี่มากจนเกินไป ก็อาจจะดำเนินการตรวจ 2 สัปดาห์ 1 ครั้งในทุก ๆ วันจันทร์เช่นเดิมก็ได้     ตรวจโควิดพนักงานที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เพื่อทำให้พนักงานที่ทำงานอยู่เกิดความสบายใจ และพนักงานใหม่เองก็จะได้เข้าทำงานแบบมีความสุข และยังจะต้องดำเนินการตรวจหาเชื้อกับพนักงานที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดหรือพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่าง ๆ อีกด้วย  

Bland Diet

เลือกทานอาหารรสชาติจืดหน่อยจะดีกับร่างกายอย่างมากเลือกทานอาหารรสชาติจืดหน่อยจะดีกับร่างกายอย่างมาก

                ในปัจจุบันนี้เรื่องของการเลือกทานอาหารนั้นก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ดีและสำคัญกับเราเองอย่างที่สุด เราจึงควรที่จะต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องของการเลือกทานอาหารด้วยจะยิ่งดีเพราะว่าในเรื่องของการทานอาหารนั้นก็เพื่อที่จะไปหล่อเลี้ยงเพื่อให้ร่างกายของเรานั้นมีความแข็งแรงอย่างที่สุด                 ในการทานอาหารนั้นเชื่อว่าแต่ละคนก็มีความชอบที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบทานหวาน บางคนชอบเค็ม บางคนชอบจืดดังนั้นก็ไม่สามารถที่จะหารสชาติที่มีความพอดีได้แต่ถ้าหากอยากแนะนำให้เลือกที่จะทานอาหารรสชาติจืดจะดียิ่งกว่าเพราะว่าการทานอาหารรสชาติจืดนั้นจะยิ่งช่วยทำให้เราได้ซึมซับสารอาหารได้ไวขึ้นแล้วไตก็จะไม่ต้องทำงานหนักอีกเช่นกัน                 สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสำคัญให้มากๆจะยิ่งดีเพราะว่ายิ่งเราให้ความใส่ใจในเรื่องของอาหารแล้วเชื่อว่าจะเกิดเรื่องราวที่ดีๆขึ้นกับร่างกายของเราเองอย่างยิ่ง ดังนั้นถ้าหากเราสามารถที่จะเลือกทานอาหารได้นั้นเราเองก็จึงควรที่จะทานรสชาติที่เบาๆไม่เปรี้ยว ไม่เค็ม และไม่หวานจะยิ่งดีกับร่างกายของเราเองอย่างยิ่งเลย                 ทุกๆอย่างในการที่เราเลือกทานอาหารนั้นเราเองก็จะต้องเน้นผักและผลไม้เป็นหลักเพราะสิ่งเหล่านี้จะไปช่วยในเรื่องของระบบในการขับถ่ายเพื่อให้ร่างกายของเรานั้นได้ขับสิ่งที่ไม่ดีและขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย เราจึงควรที่จะต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ให้มากๆในเรื่องของอาหารนั้นเองด้วย                 เพราะเรื่องของอาหารนั้นเป็นเรื่องที่เราเองจะต้องใช้ความรู้เพื่อที่จะได้ทำให้อาหารออกมาดูดีและดูน่าทานเพื่อที่เราจะได้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น สิ่งนี้จึงจะช่วยทำให้เราได้เป็นคนที่ยิ่งดูดียิ่งขึ้นเพราะว่าการที่เรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์เข้าไปในร่างกายแล้วนั้นจะยิ่งทำให้ผิวพรรณของเรานั้นยิ่งดูดีอย่างเห็นได้ชัดด้วย                 เราจึงควรที่จะต้องรู้จักที่จะให้ความสำคัญและให้ความใส่ใจให้มากที่สุดเพราะว่ายิ่งเราได้ใส่ใจกับเรื่องของอาหารแล้วจะยิ่งช่วยทำให้เราได้สนุกกับการคิดค้นเมนูอาหารนั้นเองว่าเวลานี้วันนี้เราอยากที่จะทานอาหารอะไรเพื่อที่จะได้ทำให้เราได้เจริญอาหารขึ้นและที่สำคัญก็จะทำให้เรามีความสุขที่ได้ทานของที่เราชอบอีกด้วย เรื่องของอาหารจัดว่าเป็นสิ่งที่เราก็จะต้องเรียนรู้ให้มากที่สุดเพราะยิ่งเราเรียนรู้ได้มากเท่าไหร่ก็จะช่วยทำให้เราได้เก่งในการทำกับข้าวแล้วเราก็จะรักในการทำอาหารอีกด้วย

Vegan Food

อาหารมังสะวิรัตมีอะไรบ้างอาหารมังสะวิรัตมีอะไรบ้าง

                ในปัจจุบันนี้เรื่องของอาหารนั้นเป็นเรื่องหนึ่งที่ดีและสำคัญอย่างมากเลยที่เราเองก็ควรที่จะต้องใส่ใจและให้ความสนใจในเรื่องของอาหารด้วยจะยิ่งดีอย่างในเรื่องของอาหารมังสะวิรัตนั้นก็จะมีอาหารที่เป็นพวกผักและไข่เป็นส่วนประกอบหลักแต่จะไม่มีเนื้อสัตว์มาประกอบอาหาร                 ซึ่งเราสามารถที่จะทานไข่กับผักได้เท่านั้นอันนี้จึงเป็นสิ่งที่คิดว่าหลายๆคนอาจจะทานง่ายถ้าหากไม่ทานเนื้อสัตว์ทางนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญอย่างที่สุดเลย ในการที่เราจะทานอาหารจำพวกมังสะวิรัตด้วยนั้นเองเพราะการทานอาหารมังสะวิรัตนั้นก็เพื่อที่จะช่วยทำให้เราได้เน้นในเรื่องของสุขภาพอย่างแท้จริงเลย                 ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องให้ความสนใจกันอย่างมากๆด้วยจึงจะดีอย่างน้อยในเรื่องของการทานอาหารมังสะวิรัตนั้นก็จะทำให้ร่างกายไม่ต้องมีเนื้อสัตว์ที่มากจนเกินไปอีกด้วย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเลยที่เราเองก็ควรที่จะต้องยิ่งใส่ใจและให้ความสำคัญมากๆเพราะอย่างน้อยในเรื่องของอาหารนั้นก็จะยิ่งช่วยทำให้เรานั้นมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นด้วย                 ทุกๆอย่างในตอนนี้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารให้มากที่สุดด้วยเพราะยิ่งเรารู้จักที่จะให้ความสำคัญในเรื่องของการทานอาหารได้มากเท่าไหร่แล้วก็จะยิ่งดีเพราะอย่างน้อยเราก็จะได้ทานอาหารมังสะวิรัตได้อย่างไม่ต้องกังวลใจเลยเพราะว่าการทานอาหารมังสะวิรัตนี้จะช่วยทำให้เรานั้นได้รับโปรตีนจากไข่ได้อีกด้วยเช่นกัน                 หลายๆอย่างในตอนนี้เรื่องของอาหารมังสะวิรัตนั้นก็เป็นสิ่งที่ใครๆก็มักที่จะเลือกให้ความสนใจกันอย่างที่สุดด้วยเพราะยิ่งเรารู้จักที่จะให้ความสนใจกับเรื่องของการทานอาหารมังสะวิรัตแล้วนั้นก็จะยิ่งดีอย่างมากเลย เราจึงควรที่จะต้องให้ความสนใจในเรื่องของอาหารการทานให้มากๆเพราะทุกอย่างนั้นก็เพื่อสุขภาพของตัวเราเองอย่างยิ่งด้วย                 อะไรที่จะช่วยทำให้เรานั้นยิ่งมีความสุขในชีวิตนั้นก็ควรที่จะต้องทำเพราะอย่างน้อยในเรื่องของสุขภาพร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างที่สุดเลย เรื่องเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องยิ่งให้ความสนใจกันอย่างที่สุดเพราะอย่างน้อยหากเราเน้นในด้านมังสะวิรัตแล้วนั้นเราก็ควรที่จะต้องทานไปตลอดเพราะจะยิ่งดีกับตัวเราเองอย่างมากด้วย การทานมังสะวิรัตนั้นจะเน้นเกี่ยวกับผักอย่างมากมายด้วยอันนี้จึงเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเลยที่จะมองข้ามไปไม่ได้ด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีของเราเองเราจึงควรที่จะต้องดูแลให้ดีที่สุดด้วย