หากว่าเอ่ยถึงบ้านพักผู้สูงวัยในปัจจุบันนี้ หลายๆ คนก็คงกำลังสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่ไม่นิยมแต่งงานหรือมีลูกกันอีกต่อไปแล้ว บางรายวางแผนเอาไว้ถึงขั้นว่าจะเก็บเงินไปอยู่บ้านพักคนแก่เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดีการเลือกบ้านพักคนสูงอายุนั้น ก็ต้องมีหลักเกณฑ์ต่างๆ อยู่ไม่มากก็น้อย ที่เหนือไปกว่านั้นก็คือ บางคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกับบ้านพักคนชราอยู่อีกด้วย และ 3 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบ้านพักคนสูงวัยนั้นมีดังต่อไปนี้
1.บ้านพักคนสูงวัยไม่ดีเหมือนอยู่บ้านตนเอง
คนแก่จำนวนมาก (รวมถึงคนหนุ่มสาวบางคน) เข้าใจว่าการอยู่บ้านพักคนสูงวัยเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างที่คิด เนื่องจากเข้าใจไปว่าบ้านพักคนแก่ ไม่มีอิสระ จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตผู้ดูแลอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญยังไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ตามใจได้ เพราะอย่างนี้เองทำให้หลายๆ คนลังเลใจที่จะไปอยู่บ้านพักคนแก่นั่นเอง และเมื่อลูกหลานอยากให้ไปอยู่ก็ยังพาลน้อยใจว่าลูกหลานไม่ดูแลอีกด้วย
2.บ้านพักคนแก่ไม่มีแบบที่ฟรี ต้องมีเงินมากเท่านั้นจึงจะอยู่ได้
หลายๆ คนพยายามเก็บเงินตั้งแต่เนิ่นๆ ในวันนี้เพราะเข้าใจว่าจะไปอยู่บ้านพักคนชราจะต้องมีเงินจำนวนหลักสิบล้านเสียก่อน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การจะอยู่บ้านพักคนชราไม่จำเป็นต้องมีเงินถึงหลักสิบล้านก็ได้ บางแห่งสามารถอยู่อาศัยได้ฟรีๆ แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าแห่งใดที่ให้อยู่ได้ฟรีๆ คุณภาพชีวิตอาจไม่ดีเท่ากับการที่เสียเงินจ่าย ยิ่งในปัจจุบันนี้มีหลากหลายรูปแบบของบ้านพักคนแก่ บางแห่งเป็นคอนโดมิเนียมส่วนตัวที่สามารถอยู่อาศัยได้อย่างไม่ยากเย็นแต่อย่างใด แค่เพียงกดออดก็มีคนมาดูแลแล้ว แบบนี้จะมอบอิสระให้กับคนแก่ได้มากกว่า แต่ราคาก็จะแพงกว่าอีกเช่นกัน
3.คนดูแลในบ้านพักคนแก่ใจร้ายเสมอ
อีกหนึ่งความเข้าใจผิดได้แก่ บางคนที่เข้าใจว่าคนดูแลในบ้านพักคนแก่เป็นคนที่ใจร้ายอยู่เสมอๆ ซึ่งแท้ที่จริงแว คนดูแลในบ้านพักคนแก่ก็มีทั้งที่ใจร้ายและเป็นมิตร ส่วนมากแล้วหากว่าเป็นสถานดูแลคนแก่แบบมืออาชีพจะมีการเทรนด์พยาบาลหรือว่าผู้ช่วยพยาบาลมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะต้องดูแลคนแก่แบบไหน อย่างไร
และนี่ก็คือ 3 ความเข้าใจผิดสำหรับคนที่จะไปอยู่บ้านพักคนแก่ บางคนเห็นแค่บางส่วนของข้อมูลเหล่านี้ก็รู้สึกกลัวที่จะต้องไปอยู่เสียแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการดูแลคนแก่ในบ้านพักคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุด และทำให้คนแก่ปลอดภัย มีอายุยืนกว่าเดิม